ตอนนี้กระแสเกม MOBA อย่าง League of Legends: Wild Rift เรียกว่ากำลังมาแรงจริง ๆ ใครที่เป็นมือใหม่เกมประเภทนี้ หรือ จะเป็นแฟนเกม MOBA อื่น ๆ อยู่ แต่อยากมาลองเกมใหม่บ้างก็น่าจะสงสัยกันว่า lol champion ตัวนี้เป็นสายอะไร, มีทั้งหมดกี่ สาย หรือตัวไหนน่าเล่นบ้าง ฯลฯ วันนี้ก็เลยจะมาอธิบายให้ฟังว่า lol champion ใน Wild Rift มีกี่สาย แต่ละสายทำหน้าที่อะไร ได้ และตัวไหนที่เด่นที่สุดในแต่ละสาย
ตำแหน่งการเล่น
ก่อนจะไปทำความเข้าใจสายของแต่ละ lol champion เราต้องเข้าใจก่อนว่าตำแหน่งแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่ทำอะไรได้บ้าง และ แชมเปี้ยนส์ ไหนที่สมควรไปอยู่ตำแหน่งนั้น ๆ ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็จะคล้ายกับเกม MOBA ทั่วไปนั่นแหละ โดย Wild Rift ก็มา
กับแผนที่ที่มี 3 เลนพร้อมพื้นที่ป่าของแต่ละฝั่ง ตำแหน่ง มาตรฐานเลน แบบที่กล่าวไปข้างต้นถือว่าเป็นการฟอร์มทีมที่เป็นที่
นิยมที่สุดมาเป็นเวลานานมาก ๆ แล้ว และถูกใช้อย่างกว้างขวางทั้งในการเล่นแบบธรรมดาทั่วไป ไปจนถึงการแข่งแบบมืออาชีพ ซึ่งแต่ละตำแหน่ง ก็จะมี แชมเปียนส์ แต่ละประเภทที่จะเก่งในเรื่องที่แตกต่างกันไป

ที่มา https://droidsans.com/league-of-legends-wildrift-champion-guide/
ประเภทของ แชมเปียนส์แครี่ หรือ โจมตีแรง ระยะไกล
ตำแหน่งแครี่ยิงไกลที่เน้นสกิลส่วนใหญ่ไปที่การทำดาเมจโจมตีระยะไกลที่รุนแรง และต่อเนื่อง ได้ดีมากตั้งแต่ต้นเกม ไปจน
เลทเกม ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญ และต้องปกป้องที่สุดในทีมเพราะ แครี่ สามารถกำจัด แชมเปียนส์ ฝ่ายตรงข้ามจากนอกวง
ได้เวลามีการตะลุมบอนเกิดขึ้น ทำให้มีผลมากต่อการแพ้ชนะในเกม แต่ที่คอยปกป้องก็เพราะมีข้อเสียอยู่ที่ความเปราะ อาจโดน แชมเปียนส์ ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาลอบฆ่าได้
1. ASHE
แชมเปียนส์ สุดคลาสสิคเน้นการโจมตีระยะไกลเป็นหลักมาพร้อมสกิลที่ช่วยรีดดาเมจการตีธรรมดาได้ อีกทั้งยังมีสกิล Passive ที่ทำให้ศัตรูติด สโลว์ ทุกครั้งที่โจมตี ตบท้ายด้วยสกิล อัลติเมท สตันระยะไกลที่ยิงได้ไกลจนสุดแผนที่ เอาไว้ช่วยเปิด ไฟท์ระยะ
ไกล หรือเอาไว้สตันศัตรูที่จะเข้ามาหาเพื่อเปิดทางหนีได้ นอกจากนี้ Ashe ยังเป็นสายแครี่เลทเกมที่เน้นอรรถประโยชน์จาก
สโลว์เป็นหลัก แถมยังมาพร้อมกับพลังโจมตีที่สูงไม่น้อยหน้า แครี่ตัวอื่นเลย

ที่มา https://droidsans.com/league-of-legends-wildrift-champion-guide/
เมจ โจมตีด้วยพลังเวทย์หลากหลาย
ตำแหน่งนักเวทย์เลนกลางที่เก่งเรื่องการทำดาเมจเวทย์ระยะไกลทั้งแบบวงกว้าง และเน้นโจมตีเป้าหมายเดียว พร้อมสกิลหลาก
หลายรูปแบบเพื่อเอาไว้ป่วนฝั่งตรงข้าม
1. Lux
เป็น แชมเปียนส์ ที่โดดเด่นในเรื่องการสร้างความเสียหายจากระยะไกลด้วยสกิลวงกว้างมากมาย มีทั้งสกิลล็อคที่จะหยุด
ฝั่งตรงข้ามได้ 2 วินาที (เวลา 2 วินาทีในเกม เป็นอะไรที่นานมาก ๆ) และมีสโลว์วงกว้างที่สามารถโปก และสร้างจังหวะ
ให้ทีมได้ดี แถมยังมีสกิล อัลติเมท สุดแรงที่สามารถยิงแสงเลเซอร์ทำลายล้างได้ไกลสุดแผนที่อีกด้วย ถือว่าเป็นตัวเหมาะกับ
คนเล่นใหม่มาก ๆ เพราะมีสกิลที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน แต่ด้วยความที่สกิลทั้งหมดเป็น สกิล ที่ต้องอาศัยจังหวะในการเล็ง และกะเวลา ทำให้ต้องใช้ทักษะในการเล่นระดับหนึ่งเพื่อให้สามารถดึงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาได้

ที่มา https://droidsans.com/league-of-legends-wildrift-champion-guide/
ตามชื่อที่ทุกคนเข้าใจกัน แทงค์ คือตำแหน่งที่ทำหน้าที่เป็นโล่รับดาเมจให้กับทีม มาพร้อมสกิลรับดาเมจ และ CC มากมาย
ที่เอาไว้ป่วนฝั่งตรงข้ามในทีมไฟท์ และทำการยื้อเวลาให้ แครี่ ฝั่งเราสามารถทำดาเมจกับศัตรูได้นานที่สุดนั่นเอง
1. MALPHITE
แชมเปียนส์ สายแท้งค์ที่เกิดมาเพื่อรับดาเมจกายภาพโดยเฉพาะ กับสกิล CC มากมายที่จะแรงขึ้นตามจำนวนเกราะที่มี พ่วงกับ Passive สกิลที่จะเพิ่มจำนวนเกราะเป็น 2 เท่า โดยเมื่อ Passive หลักทำงาน จะทำให้ Malphite เป็นตัวแท้งค์ที่สามารถรับมือกับ แชมเปียนส์ สายโจมตีกายภาพได้ดีมาก ตบท้ายด้วยสกิลอัลติเมตที่จะโดดไปหาฝั่งตรงข้ามแล้วยกทุกคนขึ้นรอบข้างเป็นช่วง
เวลาหนึ่ง โดยถือว่าเป็นหนึ่งในสกิลเปิดไฟท์ที่ดีที่สุดในเกมเลยก็ว่าได้ แถม Malphite ยังสามารถออกของเวทย์แล้วเล่นเป็นแนว แอสซาซิน โจมตีแรง ๆ โหด ๆ ได้อีกด้วยนะ

ที่มา https://droidsans.com/league-of-legends-wildrift-champion-guide/
ไฟท์เตอร์ เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่สามารถเล่นเป็น แครี่ แยกดันป้อมจากคนละฝั่งของทีมเพื่อดึงความสนใจ ไปจนถึงการล้วง แครี่ หรือ เมจ ตัวสำคัญ ๆ ของอีกฝั่งเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับทีม
1. GAREN
อีกหนึ่ง ไฟท์เตอร์ ที่ได้ฟรีเมื่อเริ่มเกม ด้วยสกิลที่เข้าใจง่าย และมีประโยชน์ทำให้ Garen เป็น แชมเปียนส์ ที่เหมาะมาก
สำหรับผู้เล่นมือใหม่ มีทั้งสกิลใบ้ เพื่อหยุดการใช้สกิลของศัตรู ทำให้ Garen สามารถสู้กับตัวที่จำเป็นต้องใช้สกิลเยอะ ๆ ได้
สบาย อีกทั้งยังมีสกิลลดดาเมจเป็นเปอร์เซ็นต์ควบคู่มากับสกิลหมุนดาบสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ตบท้าย
ด้วยอัลติที่ทำดาเมจตามเลือดของศัตรูที่หายไปทำให้ Garen เป็นตัว แทงค์ กึ่ง ไฟท์เตอร์ ที่สามารถรับดาเมจได้เยอะ และทำ
ความเสียได้มากในเวลาเดียวกัน จะมีข้อเสียอยู่ที่โดน Kite ง่ายไปหน่อยเพราะไม่มีสกิลเคลื่อนไหวดี ๆ มาช่วยวิ่งไล่นั่นเอง

ที่มา https://droidsans.com/league-of-legends-wildrift-champion-guide/
แอสซาซิน สามารถทำดาเมจได้รวดเร็วเฉียบพลัน แถมเป็นตัวที่มาพร้อมสกิลเคลื่อนไหวฉับไวจับตัวยาก มีความโดดเด่นอยู่ที่
การสร้างความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว และฆ่า แชมเปียนส์ เปราะ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
1. Zed
ตำแหน่ง แอสซาซิน ถือว่าเป็นอีกตำแหน่งในดวงใจของใครหลาย ๆ คน เพราะสามารถทำดาเมจได้รวดเร็วเฉียบพลัน แถมเป็น
ตัวที่มาพร้อมสกิลเคลื่อนไหวฉับไวจับตัวยาก มีความโดดเด่นอยู่ที่การสร้างความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว และฆ่า แชมเปียนส์ เปราะ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นตำแหน่งที่ผู้เล่นเก่ง ๆ มักชอบใช้กันเยอะที่สุดด้วยความสามารถในการช่วยแบกทีมที่เล่นได้ แต่ในเวลาเดียวกันหากพลาดจังหวะสำคัญ ๆ ก็อาจจะทำให้แพ้เกมได้เร็วพอ ๆ กัน

ที่มา https://droidsans.com/league-of-legends-wildrift-champion-guide/
ซัพพอร์ตถือว่าเป็นตำแหน่งที่ปิดทองหลังพระมาก ๆ เพราะมีหน้าที่หลักในการปกป้อง แครี่ ของทีม และคอยซัพพอร์ตทีม
ด้วยสกิลสนับสนุนมากมายไม่ว่าจะเป็นสกิล CC หรือ บัฟ ต่าง ๆ ที่ช่วยให้ทีมสามารถทำงานได้ดีขึ้น
1. Nami เป็นตัวซัพพอร์ตที่ครบเครื่องมากอีกตัวหนึ่ง ด้วยสกิล CC ที่หลากหลายทั้ง สโลว์ และสตัน อีกทั้งยังสามารถฮีลฝั่ง
ตัวเองพร้อมทั้งทำดาเมจฝั่งตรงข้ามในเวลาเดียวกันได้ แถมอัลติเมตยังปล่อยคลื่นขนาดใหญ่เป็นวงกว้างทำให้ศัตรูลอยขึ้นพร้อม
ทั้งติดสโลว์สุด ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้ Nami เป็นหนึ่งในตัวซัพพอร์ตระดับ Top-tier ที่สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งปกป้องแครี่ฝั่ง เรา และเปิดไฟท์ให้กับทีมได้ในเวลาเดียวกันนั่นเอง Ufabet เว็บหลัก
Credit by :
แทงบอลออนไลน์
สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์